สัมมนา TP-Link Omada Engineer Champion

สรุปไฮไลต์จากงานสัมมนาTP-Link Omada Engineer Champion

TP-Link ได้จัดงานสัมมนาOmada Engineer Champion
เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ในกลุ่มระบบเครือข่ายระดับองค์กร
พร้อมอัปเดตเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Wi-Fi 7 ซึ่งภายในงานมีเนื้อหาน่าสนใจหลายหัวข้อ ดังนี้


Omada Cloud Essentials – จัดการเครือข่ายผ่านคลาวด์อย่างมืออาชีพ

เริ่มต้นด้วย Omada Cloud Essentials ซึ่งเป็น Cloud-Based Controller
ที่ช่วยบริหารจัดการระบบเครือข่ายได้ง่ายดายผ่านคลาวด์ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน
รองรับอุปกรณ์ในตระกูล Omada เช่น Access Point, Switch และ Gateway

•ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์
•ไม่จำกัดจำนวนไซต์
•บริหารจากส่วนกลางได้ทุกที่ทุกเวลา


Product Line ที่แนะนำในงาน

1. Omada Controller

มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบ Hardware Controller, Software Controller
และ Cloud-Based Controller ตอบโจทย์การบริหารจัดการแบบรวมศูนย์

2. Router & VPN

รองรับการเชื่อมต่อ VPN หลายรูปแบบ มั่นคง ปลอดภัย เหมาะกับการใช้งานในองค์กร

3. Network Switches

มีทั้งรุ่น Managed และ Unmanaged รวมถึง Industrial Switch ที่รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว

4. GPON Fiber Optical

แนะนำอุปกรณ์GPON ONT (Optical Network Terminal)สำหรับแปลงสัญญาณ Fiber
จากผู้ให้บริการ (AIS, True, 3BB) ให้เป็นสัญญาณ LAN/Wi-Fi ใช้ภายในบ้านหรือองค์กร

5. Access Point (AP)

Omada มีครบทั้งแบบติดเพดาน (Ceiling Mount), ติดผนัง (Wall Plate),
และแบบภายนอกอาคาร (Outdoor)

•รุ่น Outdoor ได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68
•มีรุ่นรองรับ Wi-Fi 7 แล้ว ได้แก่EAP783, EAP773, EAP772, EAP723

 

อัปเดต Wi-Fi 7 – ก้าวล้ำสู่อนาคตของเครือข่ายไร้สาย

ภายในงานมีการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับ Wi-Fi 7 ซึ่งคือมาตรฐานล่าสุดที่กำลังมาแรงในปีนี้
โดยเปรียบเทียบกับ Wi-Fi 6 ได้ดังนี้:

จุดเปรียบเทียบ

Wi-Fi 6

Wi-Fi 7

ความเร็วสูงสุด

~9.6 Gbps

• สูงถึง 46 Gbps

แบนด์วิดท์

สูงสุด 160 MHz

• สูงสุด 320 MHz

QAM

1024-QAM

• 4096-QAM (เร็วขึ้น ~20%)

Multi-Link Operation (MLO)

ไม่มี

• รองรับหลายย่านความถี่พร้อมกัน

Latency

ต่ำ

• ต่ำกว่าเดิมมาก

การใช้งานในพื้นที่แออัด

ดี

• ดีกว่ามาก ด้วยระบบจัดสรรทรัพยากรแบบ Real-Time

 

MLO (Multi-Link Operation) คืออะไร?

เป็นการเชื่อมต่อหลายย่านความถี่พร้อมกัน เช่น 5GHz + 6GHz ทำให้:

  • ความเร็วสูงขึ้น
  • ความเสถียรดีขึ้น
  • Latency ต่ำลง
  • ลดปัญหาหลุด/สะดุดเวลาสลับย่าน

เหมาะกับการใช้งานแบบต่อเนื่องเช่น AR/VR, Cloud Gaming, Video Conference
ที่ต้องการความเร็วและเสถียรสูง

 

Industrial Switches – ทนทาน พร้อมลุยทุกสภาพแวดล้อม

TP-Link ยังมี Industrial Switches ที่เหมาะสำหรับงานภาคสนามหรือพื้นที่โหดๆ
•กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP40
•ทนต่ออุณหภูมิ -40°C ถึง 75°C
•รองรับระบบไฟฟ้าแรงดันสูง

งานสัมมนาครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของ TP-Link ในการนำเสนอโซลูชันเครือข่ายครบวงจร
ทั้งในระดับ SMB ไปจนถึง Enterprise รวมถึงการก้าวเข้าสู่ยุค Wi-Fi 7 อย่างเต็มรูปแบบ
หากองค์กรของคุณมองหาโซลูชันเครือข่ายที่เสถียร ทนทาน และทันสมัย TP-Link คือคำตอบ

ผู้เขียน Mr.Spider IT

Visitors: 105,019